บทที่ ๔

      ผมฝันว่าผมกำลังเดินอยู่ในป่า ถึงผมจะจำไม่ได้ว่าผมเข้ามาได้ยังไงและเพื่อจุดประสงค์
ใด แต่ผมรู้ว่าผมกำลังตามหาอะไรบางอย่าง เพราะในมือของผมกำกระดาษอยู่หนึ่งแผ่น และ

บนกระดาษนั้น มีลายเส้นขีดเขียนเอาไว้คล้ายกับแผนที่ แต่แน่นอน ตามธรรมชาติของการ

เดินป่า(โดยเฉพาะในความฝัน) ผมกำลังหลงทาง แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง ผมไม่สามารถ

หยุดเดินได้ ผมไม่สามารถหยุดคิดหรือหยุดพักหายใจ ผมรู้แต่ว่าผมต้องรีบไปให้ถึงที่แห่งนั้น

โดยเร็วที่สุด อยู่ดีๆ ภาพตัดมาที่บนยอดเขา ผมกำลังยืนอยู่บนยอดเขาสูงที่มองทอดยาวออก

ไปคือเทือกเขาขนาดใหญ่ ใหญ่เกินกว่าที่ตาของผมจะมองได้รอบ อากาศและบรรยากาศรอบ

ข้างมีแต่ความบริสุทธิ์ ทันทีที่รู้สึกถึงสายลมเย็น ผมสูดหายใจลึกๆเข้าปอด แต่พอผมเหลือบ

มองลงไปด้านล่าง ผมมีอาการมึนหัวและขาอ่อน ผมทรุดตัวลงไปนั้งกองลงบนพื้นแล้วค่อยๆ

คลานถอยห่างจากริมเหว ผมอยากจะหยิบแผนที่ขึ้นมาดูอีกครั้งแต่ผมหามันไม่เจอ ผมไม่รู้ว่า

ได้ทำมันหล่นหายไปตอนไหน ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง  จนปัญญา ผมนอนแผ่ลงบนพื้นดิน ผม

พยายามหลับตาและหวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะมาถึงโดยเร็ว แต่ทุกนาทียาวนานเหมือนหนึ่งชั่วโมง...
  เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา ผมลืมตาตื่น ลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเปิดประตู เจอมิรา

เบลยืนอยู่ด้วยสีหน้าเฉยเมย เธอใส่ชุดเดิมที่เธอใส่เมื่อคืน แต่ผมของเธอกลับยุ่งและฟู 


  " พี่เคลซี่ให้มาปลุก บอกว่าให้เจอกันตรงล็อบบี้
" จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้แหละ " ผมพูดแล้วรีบเดินไปตรงห้องน้ำเพื่อล้างหน้า แปรงฟัน 

พอเสร็จ ผมรีบเดินไปที่ตรงล็อบบี้ของโรงแรม ทันทีที่ไปถึง ลุงดำ บิว เคลซี่ และมิราเบล กำ

ลังนั้งล้อมวง
" เอากาแฟรึเปล่า " เคลซี่ถามแล้วลุกขึ้นเดินไปทางด้านหลัง
" ขอโทษที่ทำให้รอครับ " ผมพูดแล้วนั้งลงตรงเก้าอี้ว่าง เคลซี่เดินกลับมาพร้อมกับ

กาแฟ
" หนุ่ม มีคำถามจะถามลุงใช่มั้ย " ลุงดำพูดขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าลุงหมายถึงอะไร ลุงหยิบ

เอากระดาษเอกสารขึ้นมา 



                         ตารางทำงานและรักษาตัวของนิโคลัส 
            
             7.00AM  -   ดูแลงานในสวน( กับเคลซี่ )
             8.00AM  -   ทำอาหารเช้า( กับบิว )
             9.30AM  -   โปรแกรมพิเศษ 
  12.00PM  -   เวลาส่วนตัว
              1.00PM  -   ฝึกงานที่ร้าน
              4.30PM  -   โปรแกรมพิเศษ 
              6.00PM  -   หมดเวลางาน

" โปรแกรมพิเศษ " ผมสงสัย
" โปรแกรมรักษาตัว เปลี่ยนไปเรื่อยๆแต่ละวันลุงดำพูด ผมหันไปดูนาฬิกาบอกเวลา 


7โมง 15 นาที  " ไม่ต้องไปกังวลกับเวลามาก มันไม่จำเป็นต้องตรงตามนั้นตลอด ลุงแค่อยาก

ให้รู้ไว้คร่าวๆ " แกพูดต่อ
        " ส่วนอันนี้ของมิราเบล " แกหยิบกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กขึ้นมา
               
                        
                       ตารางของมิราเบล
   
 7.00AM ออกกำลังกายตอนเช้า
                8.00AM - ทำอาหารเช้า( กับลุงดำ )
                9.30AM - เล่น( กับเคลซี่ )
               11.00AM - กินอาหารกลางวัน 
12.00PM  - นอนกลางวัน
      
แค่เนี่ยหรอ " มิราเบลพูด
" อืมม หรือเธออยากจะกลายเป็นซุปเปอร์เกิลหรือไง จะทำอะไรมากมายนักหนา " ลุง

หัวเราะ
" แล้วมิราเบลจะทำไรต่อ มิราเบลอยากเล่นกับพี่นิค
" ตอบตกลงไปก่อนเหอะหน่า " ผมหันไปกระซิบที่ข้างหูเธอ " กลับไปบ้านจะเล่นด้วย

จนเธอแก่เลย " มิราเบลหัวเราะดีใจ ทุกคนหัวเราะขำ
" แต่จะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้หรอก มิราเบลด้วย " เคลซี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มนิดๆ
เธอลุกขึ้นเดินพาผมกับมิราเบลไปทางด้านหลังเคาร์เตอร์  เดินผ่านออฟฟิศเล็กๆมาจนถึงห้อง

เล็กอีกห้องนึง เธอกดเปิดไฟในห้องแล้วหยิบเอาเสื้อยืดสีขาวออกมา ตรงหน้าอกด้านขวาของ

เสื้อมีลายโลโก้ของโรมแรมขนาดเล็กติดอยู่ ลายเดียวกันกับบนผ้ากันเปื้อนที่ผมเห็นเมื่อวาน 

เธอหยิบเอาเสื้อ3ตัวขนาดกลางมาให้ผม แล้วหยิบเอาขนาดของเด็ก3ตัวให้มิราเบล 
" กางเกงจะใส่อะไรก็ได้ แต่เสื้อยืดควรเป็นสีขาว " พอพูดจบ เธอนำผมกับมิราเบลเดิน

ออกทางประตูเล็กด้านข้างแล้วเลี้ยวเข้าไปในแปลงผัก แปลงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 

กว้าง4ฟีต ยาว8ฟีต เรียงคู่กันยาวออกไปด้านละ4แปลง ผมเห็นมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ต้น

อะไรซักอย่างคล้ายๆแตงกวา และก็ข้าวโพด เธอพาเดินเลาะทางเดินไปจนถึงที่ๆดูเหมือนห้อง

เก็บของขนาดเล็ก เคลซี่เปิดประตูแล้วหยิบเอารองเท้าบูทยางออกมา เธอเอาคู่สีดำและคู่สี

เขียวเข้มขนาดของผู้ใหญ่ออกมาตั้งเรียงกันเอาไว้แล้วมองมาที่ผมทำหน้าตาสงสัย ผมที่เข้าใจ

ในเหตุการ์ณได้ทันที รีบชี้นิ้วไปที่คู่สีดำแล้วชูนิ้วโป้งเพื่อส่งสัญญาณว่า " ผมเข้าใจแล้วและ

ชอบอันนี้ " เคลซี่พยักหน้าแล้วเอื้อมตัวไปหยิบเอาคู่ขนาดของเด็กที่อยู่ด้านในออกมา เธอเอา

คู่สีแดงและคู่สีน้ำเงินเข้มเต้มลายจุดสีขาวมาตั้งเรียงกันเอาไว้แบบเดิม เสร็จ เธอมองไปที่มิรา

เบลพร้อมทำหน้าสงสัยอีกครั้ง มิราเบลเอามือมากุมที่ปากของเธอแล้วทำท่าครุ่นคิดเป็นการ

หนัก ก่อนจะตัดสินใจชี้ไปที่คู่สีแดง เคลซี่ยิ้มนิดๆแล้วนั้งลงไปรื้อกล่องที่อยู่ด้านล่าง เธอหยิบ

เอาถุงมือหนังที่ผ่านการใช้งานมาอย่างคุ้มค่าออกมาวางไว้ข้างๆรองเท้าบูท เธอปิดท้ายด้วย

การหยิบเอาบัวรดน้ำขนาดใหญ่มาให้ผมแล้วหยิบเอาอันเล็กให้มิราเบล
   
" ทำไมถึงมีของขนาดของเด็กไว้ให้ด้วย มีแม้กระทั้งบัวรดน้ำ " ผมสงสัย
" มันเป็นของฉันกับของน้องชายสมัยก่อนหน่ะ
" น้องชาย.. " ผมสงสัยแต่ตัดสินใจไม่ถามอะไรต่อ
        " วันแรก นายกับมิราเบลช่วยกันรดน้ำต้นไม้ละกัน มีแทงค์น้ำอยู่ตรงนั้น ส่วนฉันจะดูว่า

มีอะไรพอจะเก็บไปได้บ้าง " เคลซี่พูดแล้วเดินเตร่เข้าไปในแปลง ผมกับมิราเบลเดินไปรินน้ำ

ตรงแทงค์ที่อยู่ริมรั้ว 
" เฮ้ เด็กน้อย เธอไปรดตรง2แปลงที่อยู่ตรงนั้นนะ ที่เหลือพี่จัดการเอง " ผมตะโกนบอก

มิราเบลที่พึ่งจะรินน้ำเสร็จ
" อะไรนะ " มิราเบลตะโกนกลับมา 
" นี่ นายเห็นพื้นที่ตรงนั้นมั้ย " เคลซี่ชี้ไปที่มีต้นไม้เตี้ยๆที่ปลูกเรียงรายเป็นแถว " ตรง

นั้นปลูกสตรอเบอร์รี่ไว้ นายไม่ต้องรดนะ "
" เข้าใจแล้ว " ผมตะโกนตอบ

พอรดน้ำเสร็จ เคลซี่พาเดินไปตรงกรงไก่ที่อยู่ตรงริมรั้วตรงมุมขวาสุด ระหว่างที่ยืนดู เคลซี่

เปิดกรงเข้าไปเติมน้ำและอาหาร หยิบไก่บางตัวขึ้นมาลูบๆคลำๆ แล้ววางลง ออกมาจากกรง

และล็อกประตู
   
" วันนี้ได้แค่นี้แหละ " เคลซี่หยิบไข่ไก่ใส่ลงในตะกร้าสานที่เธอหิ้วมาด้วย 
" ว้าว " มิราเบลทำตาโต
" สุดยอด " ผมพูด
" นี่ยังธรรมดานะ รอจนนายได้ไปเก็บน้ำผึ้ง " เคลซี่พูด
" ผึ้ง " ผมสงสัย
" หนูกลัวผึ้ง " มิราเบลร้องออกมา
" ยังหรอก ต้องรอให้ชินอีกซักพัก " เธอตอบแล้วพาเดินกลับไปตรงห้องเก็บของอีกครั้ง
" เห็นต้นไม้เล็กๆพวกนี้มั้ย " เคลซี่ชี้ไปที่ต้นไม้เล็กที่ปลูกเรียงรายตามบริเวณทางเข้า

ของกระท่อม บ้างปลูกไว้บนดิน บ้างในกระถาง " พวกนี้คือสมุนไพรที่เราปลูกได้เอง ส่วนใหญ่

เอาไว้ใช้ทำชาไม่ก็เอามาประกอบอาหาร ส่วนพวกที่หายากๆ ลุงดำจะเข้าไปในป่าเพื่อไปเก็บ

มา ดีไม่ดีนายอาจจะได้ไปกับแกซักวัน
" ทำไมปลูกไว้แถวนี้ " ผมถาม
" เพื่อจะได้เก็บมาใช้ง่ายๆหน่ะ อีกอย่าง พวกมันมีขนาดเล็ก เราก็ใช้พื้นที่ให้เกิด

ประโยชน์ที่สุด " เคลซี่อธิบาย " ที่เห็นๆ ก็มีพวกโรสเมรี่ ลาเวนเดอร์ มินส์ คาโมมายล์ และก็

โรสบัด "
" อืมมม
" นายไม่ชอบสมุนไพรหรอ " เคลซี่หัวเราะนิดๆ ผมไม่ได้พูดอะไรตอบ

เคลซี่ปิดท้ายการทำสวนด้วยการเก็บมะเขือเทศที่โตได้ที่มา3ลูกเพื่อให้ผมมาทำอาหารเช้ากับ

บิว ที่บิวให้ผมทำก็แค่ล้างมะเขื่อเทศแล้วหันออกมาเป็นแว่นๆ ส่วนแกมีหน้าที่เอามาใส่ใน

แซนด์วิชแฮมที่แกทำเตรียมเอาไว้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมไม่ได้ช่วยอะไรเลย พอตอนเวลาพัก 

ลุงดำเดินมาหาผมที่นั้งอ่านหนังสืออยู่บนระเบียง
   
" หนุ่มชอบอ่านหนังสือ " ลุงดำถามขึ้นมา
" ก็ไม่เชิงครับ ส่วนใหญ่ชอบอ่านเวลาอยู่คนเดียว ถ้าอยู่กับเพื่อน ผมก็จะไม่ค่อยอ่าน
" หนุ่มเล่นดนตรีด้วยใช่มั้ย
" ครับ ดนตรีแจ๊ส " ผมหยุดอ่านแล้วตัดสินใจที่จะคุยกับลุง
" แต่ผมไม่ได้เก่งไรมากมาย แค่พอเล่นได้แต่ไม่เก่งมาก
" เอาหล่ะ โปรแกรมพิเศษตอนเย็นวันนี้ หนุ่มเล่นดนตรีให้พวกเราฟัง
" ไม่ใช่โปรแกรมพิเศษผมทำไปแล้วหรอครับ วันนี้เมื่อตอนเช้า " ผมหยิบเอากระดาษ

ออกมาดูอีกครั้ง ผมพึ่งเห็นว่าโปรแกรมพิเศษมีสองครั้งต่อวัน ครั้งแรกเมื่อเช้า แกพาผมไป

เดินสำรวจป่าที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ เดินป่ากับแกทำทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับลูกเสืิอที่มาเข้าค่าย

พักแรม 
" ตอนบ่าย เคลซี่จะมารับไปฝึกงานที่ร้าน พอเลิกงานตอนเย็น ตรงลานด้านหลัง ลุงจะ

ทำเวทีไว้ให้ " ลุงดำพูดแล้วเดินจากไป 

ตอนบ่ายโมงตรง เคลซี่เดินมาหาผมที่กำลังนั้งอยู่กับมิราเบล เธอเอาเสื้อมาให้ผมกับมิ

ราเบลอีกชุดนึงแล้ววานให้ผมเป็นคนขับรถไปยังที่ๆอยู่ใกล้ๆกันนี้ ก่อนจะไป เธอลำเลียงลังใส่

ผักกับผลไม้ไว้ด้านกระโปรงหลัง ปิดผากระโปรงแล้วเดินมานั้งตรงที่นั้งข้างๆคนขับ พวกเรา

สามคนขับรถผ่านทางลาดเอียง ผมคอยฟังเธอบอกเส้นทางอย่างตั้งใจ ส่วนมิราเบลคอยนั้ง

เป็นกำลังใจอยู่ด้านหลัง ประมาณ20นาที พวกเรามาถึงที่ๆเป็นเหมือนกับพลาซ่ามากกว่าจะ

เป็นอุทยาน รอบๆเต็มไปด้วยร้านขายของและผู้คน เคลซี่บอกให้จอดรถตรงด้านหลังของบ้าน

กระท่อมไม้ที่อยู่ถัดออกไป พอจอดรถ เธอเดินไปไขกุญแจที่ประตูด้านหลังของร้าน ผมช่วยเธอ

ลำเลียงกล่องใส่ผักไปไว้ข้างในห้องครัว มองผ่านห้องครัวแบบเปิดเข้าไปด้านในเป็นห้อง

อาหารขนาดเล็ก ประมาณ 10 ที่นั้ง ในห้องอาหารมีลูกค้าอยู่ 2 โต๊ะ สามีภรรยาสูงอายุสอง

คนที่กำลังกินอาหารกันอย่างช้าๆ กับโต๊ะถัดออกมาริมหน้าต่าง เป็นชายวันกลางคนกำลังนั้ง

จิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์
  " นิโคลัส ยกมาตั้งตรงนี้ได้เลย " บิวที่เห็นผมเดินเข้ามา บอกให้ผมวางกล่องผักไว้ตรง

เคาร์เตอร์ที่อยู่ตรงกลางห้องครัว
" เพอร์เฟ็ก " บิวพูดชม ผู้ชายผอมๆในชุดพ่อครัวรีบเดินมายกมันไปตั้งตรงที่ล้างจาน 

หน้าที่ๆผมได้รับ คือ เป็นคนขายขนมที่วางเรียงรายอยู่ในตู้กระจกทางฝั่งทางเข้าของ
ห้องอาหาร วันนี้ ภายในตู้มีของหวานอยู่ประมาณ 5 ชนิด -- ทาร์ดรสมะนาว บลูเบอร์รี่ชีส

เค้ก มองก์บลังใส้เกาลัด เค้กฟองน้ำรสน้ำผึ้ง และก็ ขนมปังสอดใส้บลูเบอร์รี่ 
   
" นี่มาจากสวนหมดเลยช่ายมั้ย " ผมถามเคลซี่ที่พึ่งมีเวลาว่างมาจากตรงแคชเชียร์
" เกือบทุกอย่างแต่ไม่ทุกอย่าง น้ำผึ้งกับมะนาวเป็นของเราเอง ไข่ที่ใช้ทำก็เหมือนกัน 

แต่อย่างบลูเบอร์รี่นี่ก็ไปซื้อมาจากฟาร์มใกล้ๆ ส่วนแป้งที่ใช้กับของต่างๆก็ซื้อมาอีกที
" มันไม่ดีกว่าหรอถ้าเราปลูกเอาเองเลยทุกอย่าง ลดต้นทุนดีด้วย "
" ไม่หรอก มันตรงกันข้ามหน่ะ เราควรจะปลูกแค่สิ่งที่เราชอบและมีเวลาที่จะดูแลมันได้

จริงๆ ถ้าเราปลูกเอาทุกอย่าง งานที่ต้องทำมันจะเยอะเกินไป อีกอย่าง ฟาร์มที่อยู่ในระแวกนี้ก็

เป็นเพื่อนๆกันหมด มีอะไรก็ไปขอแลกหรือซื้อมาได้ในราคาถูก " เคลซี่ตอบ
" หนูจะเอาอันนี้ " มิราเบลเอานิ้วชี้ไปตรงที่คาดว่าเป็นบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก
" สองเหรียญ ห้าสิบเซนต์ มีเงินรึเปล่าครับ " ผมบอกเธอ
" มีๆ " มิราเบลหยิบเอาแบงก์ห้าเหรียญออกมายื่นให้ผม
" เธอไปเอาเงินมาจากไหนวะ
" ฮี่ๆ " มิราเบลรับเค้กแล้วเดินไปนั้งกินคนเดียว
" นายเล่นดนตรีหรอ " อยู่ดีๆเคลซี่ถามขึ้นมา ผมพยักหน้า
" แนวอะไร
" ส่วนใหญ่ แจ๊ส "
" แจ๊สเราไม่สันทัดเลย แต่เห็นลุงบอกนายจะเล่นให้ฟังเย็นนี้ใช่มั้ย " เคลซี่ถาม
" เป็นเรื่องจริงหรอ เราไม่แน่ใจ "
" นายไม่อยากเล่นหรอ "
" ไม่รู้สิ เราไม่พร้อม " ผมพูดแล้วเอามือปิดหูด้านซ้ายให้เคลซี่เห็น
" หูนายไม่ได้ยินหรอ
" ประมาณนั้น "
" นายเป็นโรคเดียวกับ บีโธเฟน หรอ แต่เขาก็ยังแต่งเพลงต่อไปได้หนิ "
" เหมือนกับบีโธเฟน ? " ผมพึ่งนึกขึ้นได้ ทำไมผมถึงไม่ได้นึกถึงเขามาก่อน
" เราว่าเราเป็นโรคเดียวกับ แวน โก๊ะ มากกว่า " ผมตอบ
" แวน โก๊ะ.. ที่เป็นจิตรกรอะหรอ เขาเกี่ยวอะไร
บีโธเฟน หูหนวกก็จริง แต่เขาหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ แต่ แวน โก๊ะ.. เลือกที่จะตัดหูของตัว

เองทิ้ง แต่ก็อย่างว่า แกคงกินสีเข้าไปเยอะเกิน" ผมยิ้มนิดๆให้เธอรู้ว่าผมพูดเล่น 
" นายไม่ใช่หรอก " เคลซี่พูดแล้วเดินกลับไปตรงเคาร์เตอร์ที่เดิม 


หลังจากนั้น ผมตั้งหน้าตั้งตาขายขนมต่อไป มิราเบลที่กินเค้กหมดไปแค่ครึ่งอัน กำลังง่วนอยู่
กับการเล่นช้อนที่ใช้คนกาแฟ บลูเบอร์รี่ชีสเค้กขายดีจนเหลือเพียงแค่ชิ้นเดียว ส่วนของที่ขาย

ไม่ได้เลยคือ ทาร์ดรสมะนาว ระหว่างที่ผมกำลังเช็ดตู้กระจก ตาของผมเหลือบไปมองที่เคลซี่

กำลังคุยกับลูกค้า นายไม่ใช่หรอก ประโยคที่เธอพูด ยังคงก้องอยู่นิดๆในหูด้านขวา